วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทักษิณ คนๆหนึ่งที่ทำกับเมืองไทยไ้ว้



เขียนไว้หรือก๊อปเผื่อกันลืม

ต้องตอกย้ำ สันดาน-ธาตุแท้ "ทักษิณ ชินวัตร" http://www.thaipost.net/sunday/290309/2463

* วิเคราะห์ การเมือง

29 มีนาคม 2552 - 00:00

การปราศรัยผ่านวิดีโอลิงค์ของ "ทักษิณ ชินวัตร" เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา คือจุดจบของนักโทษชายรายนี้ เขาจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือเร่ร่อนไปในประเทศต่างๆ ตราบที่ยังมีกำลังทรัพย์ให้ทำเช่นนั้น
ไม่ใช่เพราะ "ทักษิณ ชินวัตร" ดูหมิ่นเหยียดหยาม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
ไม่ใช่เพราะเขา ใส่ร้ายป้ายสีคณะบุคคลที่เขาคิดว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม
แต่เพราะ "ทักษิณ ชินวัตร" ไม่หลงเหลือความเป็นไทยอยู่ในตัว
พฤติการณ์เอาดีเข้าตัวโยนชั่วใส่คนอื่น คนไทยส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้ และจะไม่ยอมให้ "ทักษิณ ชินวัตร" กลับมาเหยียบประเทศไทยอีก
สิ่งที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องเท็จชั่วโมงกว่าผ่านวิดีโอลิงค์นั้น โดยสันดานของคนคนนี้ ไม่เอ่ยปากพูดถึงความระยำของตัวเอง ขณะนั่งเป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศเพื่อพวกพ้องและครอบครัว เก็บกินผลประโยชน์ของประเทศอิ่มหมีพีมันกันเฉพาะในกลุ่มก้อนของตัวเอง
"ทักษิณ ชินวัตร" โกงบ้านกินเมือง มีใครยืนยันได้บ้างว่าไม่ใช่เรื่องจริง
เขาใช้อำนาจทุกวิถีทางเข้าไปแทรกแซงหน่วยงานของรัฐแทบทุกหน่วยงาน เพื่อเข้าไปทุจริตเชิงนโยบาย
ยุคของ "ทักษิณ ชินวัตร" เต็มไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน แบ่งปันกันเฉพาะในหมู่พวกของตนเอง จนเป็นที่มาของคำว่า "โคตรโกง" หรือ "โกงทั้งโคตร"
"ทักษิณ ชินวัตร" แทรกแซงองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
คณะกรรมการการเลือกตั้ง
ศาลรัฐธรรมนูญ
ล้วนถูกครอบงำ จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองได้
เพราะ "ทักษิณ ชินวัตร" ส่งคนของตัวเองเข้าไปนั่งเป็นกรรมการในองค์กรอิสระเหล่านี้ ใครเป็นใคร ใครต้องคิดคุก เพราะอุ้มชูระบอบทักษิณ เป็นเครื่องพิสูจน์อยู่แล้ว
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ที่ผู้คนต่างคาดหวังว่า จะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปการเมือง กลับกลายเป็นฉบับที่หนุนให้ระบอบทักษิณ เติบโตและแข็งแกร่ง เพราะ "ทักษิณ ชินวัตร" เข้าไปชี้นิ้ว แทรกแซง สั่งการ จนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนง่อยเปลี้ย
"ทักษิณ ชินวัตร" ใช้ช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญ บิดเบือนเจตนารมณ์กฎหมายเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
สิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ไม่ได้พูดในการปราศรัยผ่านวิดีโอลิงค์กับคนเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
เขากลับพูดให้คนเสื้อแดงเห็นอีกด้าน คือด้านที่เป็นคุณกับตัวเขาเป็น "สันดาน" ที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ที่ปฏิบัติมาตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
"ทักษิณ ชินวัตร" จงรักภักดีจริงหรือไม่ ตัวเขาเท่านั้นที่รู้อยู่เต็มอก
การที่เขาพูดถึง "902" ทั้งๆ ที่รู้ว่าคือใคร เขาพูดเช่นนี้ต่อสาธารณชน เขามีจุดประสงค์อะไร
หรือแม้กระทั่ง "02" ที่เขาพูดในการปราศรัยผ่านวิดีโอลิงค์เมื่อคืนวันศุกร์ "ทักษิณ ชินวัตร" มีเจตนาอย่างไร
อย่าลืมว่าเรื่องนี้ไม่ได้พูดกันสองคน แต่พูดต่อที่สาธารณะ มีผู้คนเรือนหมื่นนั่งฟังอยู่ "ทักษิณ ชินวัตร" เรียกขานให้ "เต็ม" ไม่ได้หรือ
เว้นเสียว่า "นักโทษชาย" รายนี้ ไม่ได้คิดแบบที่คนไทยทั่วไปคิด
ปรากฏการณ์ที่ "ทักษิณ ชินวัตร" และคนเสื้อแดง โดยเฉพาะ "จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ผู้ขายจิตวิญญาณให้นายใหญ่ไปจนหมด โจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัย โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรีอีกครั้งหลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกเสียจากจุดเชื้อไฟเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย หวังจะเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่อาจกินขอบเขตในมากกว่านั้น
คือ "เปลี่ยนแปลงประเทศ" ตามความหมายที่ "จักรภพ เพ็ญแข" ได้ให้ไว้
"ทักษิณ ชินวัตร" พูดโจมตีว่า "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" เป็นผู้เดินเรื่องในการทำรัฐประหาร ด้วยการแอบอ้างพระราชประสงค์
พร้อมกับพูดจาอวดอ้างว่า "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" คือผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาในอดีต
ยุครัฐบาลทักษิณ มี ผบ.ทบ.ชื่อ "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" จริง ไม่มีใครเถียง แต่ประเด็นคือ สมควรหรือไม่ที่ "ทักษิณ ชินวัตร" จะนำเรื่องนี้มาพูด เพื่อขยายความในสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้า
เขาต้องการอะไร
คงไม่ใช่ตีเสมอเจ้า
แต่ "ทักษิณ ชินวัตร" เผยให้เห็นธาตุแท้ ว่าคนอย่างเขาต้องยืนอยู่ระดับไหน!
การปราศรัยที่เต็มไปด้วยการปลุกระดม อาศัยความไม่รู้ของคนเสื้อแดง เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง
การเรียกร้องให้นักการเมืองในพรรคเพื่อไทย และอดีตนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิ์ในพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยของคนเสื้อแดง เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า การรบที่หวังผลแตกหักเริ่มขึ้นแล้ว
"ทักษิณ ชินวัตร" ต้องการใช้ความรุนแรงเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
แผนการที่วางไว้ น่าจะเป็นสิ่งที่เขาปราศรัยในช่วงท้ายคือ การออกกฎหมายนิรโทษกรรม ลบล้างความผิดจากการที่คนเสื้อแดงก่อขึ้น
ให้ถอยกลับไปนับหนึ่งใหม่ เหมือนช่วงที่เขายังคง "รักษาการเก้าอี้นายกรัฐมนตรี" นั่นคืออำนาจยังอยู่ในมือระบอบทักษิณ
แต่แผนนี้ไม่มีทางสำเร็จ เพราะ "ทักษิณ ชินวัตร" ไม่มีกำลังพอที่จะเปลี่ยนประเทศนี้อีกแล้ว
สิ่งที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ปราศรัยเมื่อคืนวันศุกร์ ถือว่าหมดเปลือกแล้ว เขาไม่สามารถให้ร้ายคนที่เขาคิดว่าเป็นคู่ต่อสู้ได้มากไปกว่านี้ เพราะคนที่สูงกว่านั้น "ทักษิณ ชินวัตร" ยังหาทาง "แตะ" ไม่ได้ ทั้งที่อยากจะโค่นล้มใจจะขาด
ทั้งหมดจึงอยู่ที่บุคคลซึ่งยืนคนละฝ่ายกับ "ทักษิณ ชินวัตร" ว่าจะเต้นตามจังหวะที่นักโทษชายรายนี้กำหนดขึ้นหรือไม่
ประธานองคมนตรี, องคมนตรี
ประธานศาลปกครอง
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ศาลรัฐธรรมนูญ
คณะกรรมการการเลือกตั้ง
รัฐบาลประชาธิปัตย์
กองทัพ
ทั้งหมดต้องกำหนดท่าทีที่เหมาะสมกับ "ทักษิณ ชินวัตร" ไม่ใช่ไม่สนใจเลย แต่ต้องให้ความสำคัญ ชี้ให้เห็นถึงการโกงกินชาติบ้านเมือง ละเลยจริยธรรมจนถูกคำสั่งศาลให้จำคุก 2 ปี
ต้องพูดถึง "ทักษิณ ชินวัตร" ในฐานะ "นักโทษหนีคุก" เรียกร้องให้เขากลับมารับโทษ
ย้ำให้สังคมเห็นถึงความเลวทรามของการคอรัปชั่น
ความระยำในยุคที่ระบอบทักษิณครองเมือง มีมากมายมหาศาล อยู่ที่ว่าจะรื้อฟื้นขึ้นมาเพื่อหยุด "ทักษิณ ชินวัตร" กันหรือไม่.

คมชัดลึก : วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2553

สื่อ แคนาดาระบุ"ทักษิณ"เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศมอนเตเนโกร "ทักษิณ"จ้างผู้เชี่ยวชาญคดีอาชญากรรมสงครามระหว่างประเทศร่วมสอบกรณีสลาย ม็อบแดง บัวแก้วมั่นใจทักษิณฟ้องรัฐบาลไทยต่อศาลอาญาระหว่างประเทศไม่ได้

(31พ.ค.) เว็บไซต์ข่าวเอ็ดมันตันเจอร์นัล ของแคนาดา รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ชื่อว่าเป็นชาวมอนเตเนโกรที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไปแล้ว และขณะที่คนเสื้อแดงต่อสู้อยู่ในกรุงเทพฯ ตัวเขากลับแสวงหาที่หลบภัยในบอลข่าน

ในขณะที่ใจกลางกรุงเทพฯ ถูกเผา หลังการปะทะกันระหว่างทหารและคนเสื้อแดงฮาร์ดคอร์และมีการนับจำนวนผู้เสีย ชีวิตหรือบาดเจ็บนั้น ก็มีคนจำนวนมากที่ถามถึงชายที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นองเลือดตามท้องถนนใน เมืองหลวงของไทยว่า เขาอยู่ที่ไหน นักวิเคราะห์บางคนพยายามโต้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่บุคคลที่มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังการประท้วงต่อต้านรัฐบาล ที่ยาวนานหลายเดือนและกลายเป็นเหตุการณ์นองเลือด แต่แกนนำคนเสื้อแดงคนหนึ่งเพิ่งจะให้สัมภาษณ์รายการ " เดอะ เคอเรนต์ " ของสถานีโทรทัศน์ CBS ว่า เขามองว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้เล่นที่สำคัญในทางการเมือง ที่มีส่วนทำให้ประชาธิปไตยของไทยยังคงเดินหน้าต่อไป

แต่สำหรับทางการไทย พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้หลบหนีกระบวนการยุติธรรม ยักยอกเงินของรัฐหลายพันล้านดอลล่าร์ ซึ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้สั่งอายัดทรัพย์เขา 46,000 ล้านบาท จากการที่เขาแก้ไขนโยบายในรัฐบาลของเขา เพื้อเกื้อหนุนธุรกิจของครอบครัว สำหรับคนบางกลุ่ม เขายังคงเป็นที่รักด้วยเพราะนโยบายประชานิยมของเขายังคงแข็งแกร่งในชนบท

คนส่วนใหญ่อาจคิดว่า นักการเมืองที่มีคดีติดตัวอย่างเขาจะพยายามใช้ชีวิตที่เรียบง่ายไม่โดดเด่น แต่น่าประหลาดใจ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ปิดบังความจริงที่ว่า เขาแบ่งเวลาการใช้ชีวิตระหว่างดูไบและเมืองบุดวาของมอนเตเนโกร ซึ่งมอนเตเนโกรนั้น เป็นประเทศเล็ก ๆ ในคาบสมุทรบอลข่าน ติดชายฝั่งทะเลเอเดรียติก การแยกตัวอย่างนองเลือดออกจากอดีตประเทศยูโกสลาเวีย ทำให้มอนเตเนโกรกลายเป็นสาธารณรัฐที่มีขนาดเล็กที่สุด และเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2549 ประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ ก็ได้เอกราชและอธิปไตยที่สูญเสียไปนานกลับคืนมา

นิตยสารนิวสวี้ค และเดอะ นิว ยอร์คเกอร์ ได้ให้คำจัดความมอนเตเนโกรว่า เป็นที่ลี้ภัยของอาชญกรที่รวมกลุ่มกันกระทำผิด (organized crime) และเป็นแดนสวรรค์สำหรับการฟอกเงิน ซึ่งแม้แต่ตัวนายกรัฐมนตรีเอง รวมถึงเครือญาติและพวกพ้องทางการเมือง ต่างก็ถูกฟ้องร้องอย่างน้อยในสองประเทศ คือ เยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ ฐานลักลอบค้าบุหรี่และฟอกเงิน

จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทางการและสื่อของมอนเตเนโกร ต่างระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้รับสัญชาติมอนเตเนโกร เมื่อปี 2552 ด้วยความหวังว่า เขาจะเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รัฐบาลมอนเตเนโกรก็เลยไม่ได้ทำตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองของตนเองหรือ ดำเนินการตามขั้นตอนมาตรฐานใด ๆ ในการให้สัญชาติแก่ พตท.ทักษิณ และเขาได้กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในมอนเตเนโกร และมักจะถูกพูดถึงอย่างติดตลกว่า ชาวมอนเตเนโกรที่ร่ำรวยที่สุด

นายอิกอร์ ลุคซิช รัรฐมนตรีคลังและรองนายกรัฐมนตรีมอนเตเนโกร อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะช่วยเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการนำการลงทุนใหม่ ๆ เข้าไป หรือไม่ก็เข้าไปลงทุนด้วยตนเอง ส่วนเรื่องการเคลื่อนไหวทางเมืองที่เกี่ยวกับไทยนั้น นายมิลาน โรเซน รัฐมนตรีต่างประเทศบอกว่า เขาได้เตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ให้ใช้เป็นมอนเตเนโกรเป็นกองบัญชาการเพื่อประสานความร่วมมือในการเคลื่อน ไหวทางการเมืองในประเทศไทย เขายังบอกด้วยว่า มีหลายประเทศในยุโรป ที่ให้สัญชาตินักธุรกิจที่มีปัญหาขัดแย้งในระดับสากล และมอนเตเนโกรก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน และที่สำคัญพ.ต.ท.ทักษิณได้กลายเป็นพลเมืองของประเทศนี้ และจะนำความน่าสนใจมาสู่ประเทศนี้เช่นกัน

พ.ต.ท.ทักษิณ ได้บอกกับสื่อมอนเตเนโกรว่า เขายินดีที่ได้แผ่นดินใหม่ และการต้อนรับของผู้คนและก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นชาวมอนเตเนโกรจริง ๆ ส่วนความสัมพันธ์กับประเทศชาติบ้านเกิด เขายืนยันว่า ยังติดต่อกับผู้สนับสนุนในไทยเป็นประจำทุกวัน ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พตท.ทักษิณ กล่าวว่า เจ้านายของเขากำลังพิจารณาจะไปลงทุนด้านธุรกิจโรงแรมและสถานที่พักผ่อน บริเวณชายหาดมอนเตเนโกร มีข่าวลือว่า เขาไปซื้อเกาะเซนต์ มาร์ค หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า ฮาวาย ใกล้กับเมืองบุดวา เอาไว้แล้ว

พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในรายชื่อของบรรดานักลงทุนนานาชาติที่หวังจะเข้าไปลงทุน ในมอนเตเนโกรในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ได้มีหุ้นส่วนทางธุรกิจของรัฐบาลมอนเตเนโกร รวมทั้ง ร็อธสไชด์ส และไทร ไจเแอนต์ คอร์ปอเรชั่น และเหล่ามหาเศรษฐีรัสเซีย ที่เป็นพวก ออลิการ์ช ได้แก่ โรมัน อับราโมวิช , โอเล็ก ดีริปาสก้า และจูรี่ ลุชคอฟ ซึ่งล้วนแต่เข้าไปถือสิทธิ์ในดินแดนที่ในหนังสือแนะนำการท่องเที่ยวอธิบาย ว่ามีความสวยงามตามธรรมชาติเอาไว้ทั้งนั้น

มีคำตอบง่าย ๆ ว่า เหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเลือกมอนเตเนโกรเป็นสถานที่ลงทุนแห่งใหม่ และเป็นแหล่งลี้ภัย ซึ่งคำตอบประการแรกก็คือ นโยบายของรัฐบาลมอนเตเนโกรไม่เน้นเรื่องความโปร่งใส และนักลงทุนต่างชาติที่ทำธุรกิจกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง หรือกับครอบครัวของเขา สามารถดำเนินการผ่านธนาคารที่พวกเขามีบัญชีอยู่ ซึ่งจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนกลับมาด้วยความรวดเร็ว และตราบใดที่ผลกำไรนั้นเกิดจากการทำธุรกิจระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนักธุรกิจ ต่างชาติ ตราบนั้นก็ไม่มีใครมาถามถึงแหล่งที่มาของเงินลงทุน

ประการที่สองคือ รัฐธรรมนูญของมอนเตเนโกรไม่มีการส่งพลเมืองไปเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ดังนั้น จึงเป็นการเหมาะสมที่จะใช้สัญชาติมอนเตเนโกร และพวกเขาจะหลุดพ้นจากปัญหาด้านกฎหมายทั้งปวง เมื่อถือหนังสือเดินทางมอนเตเนโกร ที่เป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในโลกที่ยังมีระบบนิเวศน์วิทยาที่สมบูรณ์ และดูเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ จะพบว่า มอนเตเนโกรเป็นแหล่งพักพิงที่ปลอดภัยและเป็นตลาดการลงทุนที่ไร้กฎเกณฑ์และ ไร้ขีดจำกัดอีกด้วย

"ทักษิณ"จ้างผู้เชี่ยวชาญร่วมสอบกรณีสลายม็อบแดง

นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความระหว่างประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยวันนี้ว่า ศาสตราจารย์จี เจ อเล็กซานเดอร์ คนูปส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมสงครามระหว่างประเทศ ได้เข้าร่วมทีมกฎหมายระหว่างประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณเพื่อตรวจสอบการสลายการ ชุมนุมของรัฐบาลไทยเมื่อเดือนเม.ย. และพ.ค.

ศาสตราจารย์คนูปส์เคยทำคดีด้านอาชญากรรมสงคราม สงครามของรัฐต่อมนุษยชาติ และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อย่างคดีของอดีตยูโกสลาเวีย คดีรวันดา และคดีเซียร์ราลีโอน โดยคดีหลังนั้นอยู่ในรูปของศาลพิเศษจัดตั้งโดยสหประชาชาติและรัฐบาลเซียรร์ ราลีโอน เพื่อพิจารณาคดีผู้ต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และกฎหมายเซียร์ราลีโอนอย่างร้ายแรงตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2539

นายอัมสเตอร์ดัม ระบุว่า เคยทำงานร่วมกับนายคนูปส์มาหลายปี พร้อมชี้ว่าในช่วงของการสลายการชุมนุมมีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 140 ราย ส่วนใหญ่ถูกคุมตัวนานกว่า 1 สัปดาห์โดยไม่มีการตั้งข้อหาและไม่ได้รับอนุญาตให้พบทนาย ซึ่งนับเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนพื้นฐานและกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนั้นรัฐบาลยังละเมิดพันธกรณีในฐานะที่เป็นสมาชิกประชาคมโลกและสมาชิก คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

ล่าสุดทั้งสองคนได้มีส่วนช่วยให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่กลุ่มนปช.และผู้ ชุมนุมเสื้อแดงในกรุงเทพฯและภาคเหนือ

บัวแก้วมั่นใจทักษิณฟ้องรัฐบาลไทยต่อศาลอาญาระหว่างประเทศไม่ได้

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าเรื่องที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณเตรียมจะฟ้องรัฐบาลไทยต่อศาลอาญา ระหว่างประเทศ ที่นครเฮกของเนเธอร์แลนด์ คงไม่สามารถเป็นไปได้ เนื่องจากไทยไม่ได้เป็นภาคีสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ และไม่ได้ลงสัตยาบันในปฏิญญากรุงโรม ขณะเดียวกันคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายในของไทย ยูเอ็นไม่แทรกแซง

สำหรับอำนาจการพิจารณาคดีของศาลอาญาระหว่างประเทศ คือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การเป็นอาชญากรสงคราม อาชญากรรมเกี่ยวกับการรุกราน สงครามระหว่างประเทศ และอาชญากรรมที่เป็นภัยต่อมนุษยชาติ

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีในไทยข้อหาก่อการร้ายนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางออกจากฝรั่งเศสแล้ว และกระทรวงกำลังรอดูท่าทีจากมอนเตเนโกร ว่าจะตอบรับคำร้องขอรัฐบาลไทยในการส่งตัวกลับหรือไม่ แต่ยอมรับว่ายากพอสมควร ถึงอย่างนั้นกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการทุกอย่างตามกระบวนการที่ถูก ต้องและพยานหลักฐาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Manager Online - ภาคใต้

Manager Online - ภาคกลาง-ตะวันออก

Manager Online - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Manager Online - ภาคเหนือ

คันฉ่องนกไฟ

ผู้ติดตาม

http://hi5.com/friend/displayLoggedinHome.do