วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ความเจ็บป่วยและความเสื่อมของร่างกาย (ท้ายคลิป)

ไม่มีใครอยากเจ็บป่วย ทรุดโทรม เสื่อมสภาพแต่ด้วยสภาวะเช่นปัจจุบันนี้ยากจะหลีกเลี่ยงได้
สาเหตุในแง่ของหมอเขียวจาก http://morkeaw.com/sick.html ทำให้เราพอรู้ได้ว่าจะปฎิบัติตัวอย่างไร
ส่วนลิงค์นี้ก็ดี http://www.scribd.com/doc/21584404/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2-5-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3
ส่วนอันนี้ของหมอแดง http://www.the-arokaya.com/web5/index.php/all-articles/web/index.php?option=com_content&view=article&id=235:2010-04-26-05-00-11&catid=40:2010-03-31-09-25-53&Itemid=107
และจากไทยโพสต์ http://www.thaipost.net/tabloid/210310/19628

แพทย์ทางเลือกแผนทิเบต : ศาสตร์และศิลป์สู่ชีวิตสมดุล ตามวิถีพุทธปรัชญา

การแพทย์ แผนธิเบต เป็นศาสตร์โบราณที่มีรากมาจากคำสอนของพระพุทธศาสนา ที่รวมความเป็นศาสตร์ ศิลปะ และปรัชญา ของการดูแลรักษาสุขภาพอย่างเป็นองค์รวม

ความเป็นศาสตร์ มี การอธิบายอย่างเป็นระบบและสมเหตุสมผลอยู่บนพื้นฐาน ของการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่าง จิตใจ ร่างกาย และสิ่งแวดล้อม

เป็นศิลปะแขนง หนึ่ง มีการประยุกต์ใช้อุปกรณ์การวินิจฉัยโรคอย่างสร้างสรรค์ อาศัยความหลักแหลม ลุ่มลึก และความเมตตากรุณาของแพทย์ผู้รักษา

แฝงไป ด้วยปรัชญา เป็นการผนวกเอาหลักคำสอนที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กฎแห่งกรรม และจริยธรรม
สาเหตุของความเจ็บป่วย

การ แพทย์แผนธิเบตเชื่อว่าสาเหตุสำคัญของความเจ็บป่วยเกิดจาก”อกุศลจิต” คือ

• ความโลภ เกิดจากการยึดติด อยากได้ อยากเป็นเจ้าของ เมื่อเกิดความโลภจะทำให้ธาตุลมในร่างกายปั่นป่วน ส่งผลให้จิตใจซึมเศร้า เครียด กลัวและกังวล
• ความโกรธ จะทำให้ธาตุไฟรุ่มร้อน ตับจะทำงานมากผิดปกติ ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงและระบบโลหิตไหลเวียนไม่ดี
• ความหลง จะทำให้ธาตุดินและน้ำผิดปกติ ทำให้สมองคิดอะไรไม่ออกและร่างกายไม่กระฉับกระเฉง

นอกจากความโลภ โกรธ หลง แล้ว สาเหตุของความเจ็บป่วยยังมาจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิต สภาพอากาศ และการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม
การดูแลตนเองตามแนวทางแพทย์แผนธิเบต

เน้น ที่การรักษาดูแลจิตใจตนเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารและวิถีการดำเนินชีวิตให้เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้ธาตุทั้งสามในร่างกายมีความสมดุล และที่สำคัญสูงสุดคือ ต้องเท่าทันความโลภ โกรธ หลง โดย “ต้องคิดก่อนกิน คิดก่อนทำ คิดก่อนพูด คิดก่อนต้องการ และยิ้มให้ตัวเองอย่างน้อยวันละสามครั้งหลังอาหาร” เพียงแค่นี้คุณก็ไม่ป่วยแล้ว

จุดแข็งของการแพทย์แผนธิเบต คือ การรักษาโรคเรื้อรังได้ดี เช่น โรคเรื้อรังที่หาสาเหตุไม่ได้ชัดเจน โรคตับ โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน โรคเครียด และโรคมะเร็งระยะเริ่มต้นจาก เว็บไซต์เสมสิกขาลัย มีการอบรมด้วยคับ
10. ดรรชนี วัดสุขภาพ (Biomarkers)

1.กล้ามเนื้อ ( lean body , muscle mass )
2.ความแข็งแรง ( strength )
3.อัตราการเผาผลาญ ( BMR )
4.ไขมัน ( body fat )
5.ความสามารถในเก็บออกซิเจน ( aerobic capacity )
6.ความดันโลหิต (blood pressure)
7.ระดับน้ำตาลในเลือด ( (blood sugar tolerance)
8.ไขมันในเลือด ( cholesterol / HDL ratio )
9.ความแน่นของกระดุก ( bone density )
10.การ ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ( body temperature )

10 ยอดอาหารชะลอวัยห่างไกลโรค

การสืบเสาะหายาอายุวัฒนะชะลอวัย และป้องกันโรคนั้นมีมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรมาลบล้างการเลือกโภชนาการดี และการออกกำลังกายสม่ำเสมอได้ แต่เมื่อถึงเวลาเลือกอาหารคนส่วนใหญ่มักจะตกม้า เพราะเลือกรสชาติอาหารโดยไม่สนใจคุณภาพ แต่ถ้าใส่ใจคุณภาพสักนิดก็คงไม่ได้ทำให้รสชาติด้อยจนรับไม่ได้ อาหารธรรมชาติที่เราควรเลือกให้บ่อยขึ้นในชีวิตประจำเพื่อถนอมวัยห่างไกลโรค ได้แก่ อาหารต่อไปนี้

1.น้ำ ไม่ต้องแปลกใจ น้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดในอาหาร ร่างกายต้องใช้น้ำในการหายใจ ย่อย และดูดซึมอาหาร เผาผลาญพลังงาน และสารอาหาร ขจัดของเสีย ตลอดจนควบคุมน้ำหนัก และอุณหภูมิในร่างกาย คนเราควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้วขึ้นไป น้ำสะอาดไม่มีแคลอรี่หรือพลังงาน ไม่มีผลข้างเคียงเหมือนกาแฟ เมล็ดโคลา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำผลไม้ มีประโยชน์แต่มีแคลอรี่ ถ้าดื่มมากก็อ้วนได้

ส่วนชาโดยเฉพาะชาเขียวมีสารเฟลโวนอยด์ซึ่งช่วยขจัดอนุมูลอิสระแนะนำให้ บริโภควันละ 500-750 มิลลิลิตร ส่วนชาประเภทพร้อมดื่มบรรจุขวดหรือ ประเภทสกัดกาเฟอีน มีสารเฟลโวนอยด์น้อยมาก

2.ผัก กินผักหลากหลายชนิดและหลากหลายสีวันละ 5-6 อุ้งมือขึ้นไป ผักเป็นแหล่งอาหารที่ยอดเยี่ยมของวิตามิน แร่ธาตุ กากใยอาหาร สารแอนติออกซิแดนท์ สารต้านอนุมูลอิสระหรือสารต้านแก่ และมีสารพฤกษเคมีต้านมะเร็งและโรคอื่นๆ มากมาย

ในแต่ละสัปดาห์แนะนำให้บริโภคผักตระกูลครูซิเฟอรัส (Cruciferous) 4-6 อุ้งมือ ได้แก่ บร็อคโคลี แขนงผัก กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ คะน้า เพราะผักเหล่านี้มีสารธรรมชาติดีๆ หลายชนิด เพิ่มฤทธิ์เอนไซม์ที่ต่อต้านการเกิดสารก่อมะเร็ง มะเขือเทศ มีสารไลโคพีน ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งปอด แนะนำให้บริโภคสัปดาห์ละ 4 ครั้งขึ้นไป

3.ผลไม้ แนะนำผลไม้สดหลากหลายชนิดและหลากหลายสีวันละ 4-8 อุ้งมือ ผลไม้มีวิตามิน แร่ธาตุ กากใยอาหาร สารแอนติออกซิแดนท์ และสารพฤกษเคมีมากไม่แพ้ผัก ผลไม้ล้วนแต่มีสารอาหารดีๆ ชะลอวัยทั้งนั้น

4.หอมและกระเทียม เป็น สมุนไพรธรรมชาติ ที่ใช้มีฤทธิ์เป็นยา ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย พาราไซต์ และไวรัส ป้องกันโรคหอบหืด ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลวเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี

5.ธัญพืชไม่ขัดสี มีโปรตีน วิตามินบีและอี แร่ธาตุ ใยอาหารไม่น้อย และยังมีสารต้านมะเร็งมากมายเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสีหรือ เป็นองค์ประกอบหลักของอาหาร แนะนำให้บริโภควันละ 1.5 ถ้วยตวง ตัวอย่างข้าวซ้อมมือ ข้าวโพด ลูกเดือย ขนมปังโฮลวีทเป็นต้น

6.ถั่วเมล็ดแห้ง ต่างๆ ได้แก่ ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลันเตา ถั่วเหลือง เป็นแหล่งที่ดีของโปรตีนพืช กากใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ มีวิตามินบีสูงโดยเฉพาะโฟเลทช่วยป้องกันอันตรายต่อดีเอ็นเอ แนะนำให้บริโภคสัปดาห์ละ 1.5-2 ถ้วยตวง(สุก) ถั่วเหลือง มีสารไอโซเฟลโวนส์ อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ยับยั้งการเจริญของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง โปรตีนถั่วเหลืองช่วยลดคอเลสเตอรอล แนะนำให้บริโภควันละ 1/2 -1 ถ้วยตวง หรือถ้ามีมะเร็งเต้านมจำกัดไว้ที่สัปดาห์ละ 1.5-2 ถ้วยตวง

7.ถั่วเปลือกแข็ง มีโปรตีน วิตามินบีและอี ใยอาหารและไขมันชนิดที่ดี มีสารป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ เช่น ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ เป็นต้น แนะนำบริโภควันละครึ่งอุ้งมือ

8.โยเกิร์ต มีแคลเซียมสูงซึ่งจับกรดน้ำดีป้องกันการเจริญของเซลล์ที่ผิดปกติ มีเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังมีโปรตีนสูง เลือกโยเกิร์ตไขมันต่ำน้ำตาลต่ำ และมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิต แนะนำให้บริโภควันละ 1 ถ้วยตวง

9.ปลามีกรดโอเมกา 3 หรือน้ำมันปลาซึ่งช่วยชะลอการเจริญของเซลล์มะเร็ง ลดการอักเสบ ป้องกันโรคหัวใจ และสมองเสื่อม เลือกปลาทะเล เช่น แซลมอน ซาร์ดีน ทูน่า แมคเคอเรล ปลาทู เป็นต้น แนะนำให้บริโภคสัปดาห์ละ 3 ครั้งหรือ 12-24 ช้อนโต๊ะ

10.เนื้อสัตว์ปีก เราะหนังเราะมัน และชนิดปลอดเชื้อไข้หวัดนก มีโปรตีนและวิตามินบี ซุปไก่ตุ๋นร้อนๆ ช่วยลดอาการหวัดเพราะมีสารซิสเทอีนสูงช่วยละลายเมือกและเสมหะ

นักวิจัยรายงานว่าอาหารทั้ง 10 ชนิดที่ว่านี้มีข้อมูลการวิจัยสนับสนุน ขออย่างเดียวอย่าเติมสิ่งไม่ดี เช่น หวาน มัน และเค็มจัดลงไปลบล้างสิ่งดีๆ

ลองทำดูแล้วจะไม่ผิดหวังที่ให้แต่สิ่งดีๆ แก่ร่างกาย

สำหรับผม ออกกำลังกายทานอาหารแต่พอดี(เท่าที่มี?)แล้วพยายามฝึกจิต อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดีหรือสร้างให้ดี(เราทำได้) วางแล้วว่างให้ได้(ไม่ได้ขี้เกียจน่ะครับ)
ความเสื่อมสลาย ของสังขารที่เกิดขึ้นตามวัย และตามสภาพแวดล้อมแล้ว ก็ย่อมสอดคล้องกับองค์ความรู้ในปัจจุบันเกี่ยวกับเรื่องของอนุมูลอิสระที่มา จากน้ำ อาหาร อากาศ และปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นพิษ จนเป็นเหตุของความเสื่อมของร่างกายและนำพาการเกิดโรคก็ย่อมสอดคล้องกัน ดังนั้น การป้องกันจึงต้องบริโภคอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ พวกผักผลไม้ต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งสารอาหารต้านอนุมูลอิสระ หมั่นออกกำลังกาย และเข้าวัดชำระจิต ขจัดสารพิษให้กับกายและจิต ซึ่งเราสามารถทำได้ ให้ได้ตามที่ก็อปมาเท่านี้แหละ

รักษาสุขภาพให้ดีเสื่อมช้าๆๆๆทั่วทุกๆคนนะครับ " อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ " หรือ "Health is wealth."
คุณหมอบอกว่า(พญ. อัจจิมา สุวรรณจินดา ผู้อำนวยการสถาบัน Medisci แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และอายุรวัฒน์)
1. รับสิ่งดีๆเข้าไปในร่างกาย 2.ขับสิ่งไม่ดีออกไปจากร่างกาย 3. ทำให้ร่างกายอยู่ในระดับสมดุล
พญ.อนงนุช ชวลิตธำรง ผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย
หลักของการชะลอวัย คือการรักษาสมดุลของร่างกาย ตั้งแต่ฮอร์โมน สารอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระ และระบบชีวเคมี ในร่างกายให้สมดุลกัน
"ชะลอวัย" ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ 150 นาที ที่สำคัญ ควรนั่งสมาธิวันละ 20 นาที เพื่อให้จิตใจสบาย ส่งผลต่อร่างกาย เป็นเรื่องง่าย ๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Manager Online - ภาคใต้

Manager Online - ภาคกลาง-ตะวันออก

Manager Online - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Manager Online - ภาคเหนือ

คันฉ่องนกไฟ

ผู้ติดตาม

http://hi5.com/friend/displayLoggedinHome.do