ต้องบอกว่าวันวาน เพราะเป็นวันเมื่อวานนี้เอง(?) ทำไม มันมาจากอารมณ์ของบ้านเมืองที่ไม่ปกติ เป็นสิ่งที่คิดว่าทำอย่างไร ทำไม ทำๆไม จะทำไปถึงเมื่อไหร่ จะจบอย่างไร แล้วจะเป็นอย่างไงต่อไป แล้วทั่งหมดก็เอาอารมณ์ของตัวเองเข้าไปใส่ตามใจอย่างที่อยากจะให้เป็น เพราะอยากจะให้เป็นอย่างที่อยาก จึงทำให้ตัวเองหดหู่ อารมณ์เกิด ตัณหาเกิด กิเลส สารพัดก็ตามมา รู้...แต่ยังตัดกระแสไม่ได้เพราะไม่ได้ทำตัวเป็นคนที่เฝ้ามองตัวเองแต่ไปมองที่อื่น เกิดกระแสการไหลวนของสิ่งต่างๆพัดเข้ามาภายในใจตัว อีกทั่งไม่รู้จุดหมายของสิ่งนั่นๆ ประเมินไม่ได้เพราะเราไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ ย่อมไม่ทราบว่าจุดหมายแท้ๆของการกระทำคืออะไร แต่ได้แต่วิเคราะห์จากข่าวและเหตุการณ์ทั่วๆไป สุดท้ายก้อไม่รุ้ว่าอะไรจริง งง.....งง.....
เมื่อจิตสับสน วุ่นวาย ความไม่ปกติของใจคือ เหี่ยว แฟบ แล้วฟุบ ทำให้พาลไม่ค่อยอยากทำอะไร
ท้ายนี้เข้าใจ ว่าเราไม่เกิดสติ ใช่ครับ เพราะเหตุนี้ทำให้รุ้ได้ว่าเมื่อจิตรับอารมณ์ การจะตัดทอนหรือตัดให้ขาดจากสิ่งรบกวนนั่นๆทำอย่างไร อย่างที่ได้ฟังหลวงปู่สอน(จำจากในซีดี)ว่า สติรับรุ้อารมณ์ตามจริง ตามจริงคือไม่มีการปรุงแต่ง่ของสภาพนั่นๆ ไม่มีสวย ไม่มีเลว ไม่มีอะไรเลย(ทั่งหมดนี้เข้าใจมั๊ย?) ยกตัวอย่าง ดอกไม้สวย คำว่าสวยมาจากไหน ใครกำหนด สี แสง สภาพของดอก หรือลักษณะการวางขององค์ประกอบ ว่าได้สัดส่วน จริงๆแล้วไม่มีอะไรเลย ????? ทุกอย่างไม่มีอะไรเลย อย่าเข้าใจผิด ๐./
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น